ความเป็นโสดาบัน ประเสริฐกว่า เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ #
โสดาบันคืออะไรและสำคัญอย่างไร #
การบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์และเข้าสู่นิพพานถือเป็นเป้าหมายอันสูงสุดของศาสนาพุทธ การที่ได้บรรลุโสดาบันเป็นการการันตีว่าจะต้องบรรลุธรรมเป็นอรหันต์ภายใน 7 ชาติ
โสดาบันถือเป็นก้าวแรกของการเข้าสู่กระแสพระนิพพาน คือเป็นระดับแรกในอริยะบุคคล 4 ระดับ ได้แก่ โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี และ อรหันต์ หลังจากบรรลุโสดาบันจะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์และเข้าสู่นิพพานในไม่เกิน 7 ชาติ หรืออาจเกิดขึ้นในชาติเดียวก็ได้ และในชาติที่เหลืออยู่จะปลอดภัยจากการที่ต้องไปเกิดในนรก เป็นสัตว์ เปรต หรือ อสูรกาย โดยจะเกิดเป็นมนุษย์เป็นขั้นต่ำที่สุด
บรรลุโสดาบันได้อย่างไร #
การบรรลุโสดาบัน หรือแม้แต่อรหันต์ ไม่จำเป็นต้องบวชเป็นภิกษุหรือภิกษุณี ในสมัยที่ พระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์อยู่ มีฆราวาสที่ได้บรรลุเป็นอริยบุคคล ซึ่งรวมถึง โสดาบัน
เราสามารถบรรลุโสดาบันได้ด้วย
- การละอัตตา
- การละความสงสัยในพระรัตนตรัย
- การละความยึดมั่นในพิธีกรรม
1. การละอัตตา #
สำหรับชาวพุทธทั่วไป คงเป็นสิ่งที่เข้าใจและปฏิบัติได้ยากที่สุดจากทั้งสามข้อ พระพุทธเจ้า ได้เคยแสดงไว้หลายเทคนิค ในการละอัตตา เพราะแต่ละบุคคลมีความเหมาะสมกับเทคนิคที่แตกต่างกัน ถึงแม้ในหลักการจะมาจากทฤษฏีเดียวกัน ในพระไตรปิฎก จะอธิบายถึงเทคนิคต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าได้เคยแสดงเอาไว้ในพระธรรมบทต่างๆ สำหรับแต่ละบุคคลในแต่ละสถานที่และเวลา ซึ่งผู้ที่ได้รับเทคนิคและปฏิบัติตามก็ได้บรรลุเป็นอริยบุคคล เช่น
-
พระพาหิยะ ฆราวาสที่บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ในขณะที่ยังเป็นฆราวาส หลังจากที่ได้ฟังและพิจารณาตามธรรมะโดยย่อของพระพุทธเจ้าเพียงบทเดียว
-
พระยสะ ที่บรรลุโสดาบันหลังจากที่ได้ฟังธรรมะจากพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก และบรรลุธรรมเป็นอรหันต์หลังจากที่ได้ฟังธรรมะจากพระพุทธเจ้าเป็นครั้งที่สอง ทั้งหมดนี้ในขณะที่ท่านยังคงเป็นฆราวาส
2. การละความสงสัยในพระรัตนตรัย #
ก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานและประสบการณ์ของแต่ละคนอีกเช่นกัน บางคนอาจโชคดีได้เคยมีประสบการณ์อะไรบางอย่าง เช่น ปาฏิหาริย์ ที่ทำให้ต้องมีศรัทธาอย่างปราศจากข้อสงสัยในพระรัตนตรัย
3. การละความยึดมั่นในพิธีกรรม #
เป็นการใช้ปัญญาในการค้นคว้าและแยกแยะระหว่างทางสายตรงที่จะเข้าสู่กระแสพระนิพพาน กับพิธีกรรมที่อยู่นอกศาสนาพุทธและไม่ได้เป็นพระธรรมของพระพุทธเจ้า ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าพิธีกรรมเหล่านั้นไม่ได้มีความศักดิ์สิทธิ์จริง แต่ต้องแยกแยะได้ว่าพิธีกรรมเหล่านั้นไม่ใช่ทางสายตรงสู่การบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์และเข้าสู่นิพพาน
ทำไมถึงต้องบรรลุโสดาบัน #
โสดาบันถือเป็นก้าวแรกของการเข้าสู่กระแสพระนิพพาน ซึ่งเป็นอริยะบุคคลในระดับที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด และเป็นการการันตีว่าจะต้องบรรลุธรรมเป็นอรหันต์ภายใน 7 ชาติ ซึ่งจะถึงที่สิ้นสุดแห่งทุกข์ และหยุดการเวียนว่ายตายเกิด
ตราบเท่าที่ยังไม่ได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์และเข้าสู่นิพพาน ก็จะยังไม่ถึงที่สิ้นสุดแห่งทุกข์ และก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งก็มีโอกาสที่จะต้องไปเกิดใน นรก เป็นสัตว์ เปรต หรือ อสูรกาย หรือแม้แต่ได้ไปเกิดเป็นมนุษย์ ก็ยังหนีไม่พ้นการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย และความทุกข์ต่างๆ ของการเป็นมนุษย์ หรือแม้แต่ไปเกิดในสวรรค์ หรือ พรหมโลก เมื่อสิ้นสุดอายุขัย ก็ยังต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีกครั้ง และก็มีโอกาสที่จะต้องมาเกิดในภพภูมิที่ตำกว่า เช่น นรก เป็นสัตว์ เปรต หรือ อสูรกาย หรือแม้แต่มนุษย์
นี่เป็นที่มาของคำพูดที่ว่า เป็นโสดาบัน ประเสริฐกว่า เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ เพราะพระเจ้าจักรพรรดิ ยังหนีไม่พ้นความทุกข์ที่ได้กล่าวมาแล้ว
ทำไมถึงต้องรีบบรรลุโสดาบัน #
เราโชคดีที่ได้เกิดมาในยุคที่มีพุทธศาสนา แต่ต้องยอมรับว่า พุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จะเสื่อมลงไปเรื่อยๆ และมีวันสิ้นสุด มีบันทึกในพระอรรถกถาว่า พระพุทธศาสนามีอายุ ได้ 5,000 ปี ดังนั้นหากเราเกิดเป็นมนุษย์อีกราว 25 ครั้งก็จะสิ้นสุดพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันแล้ว และเราก็จะไม่สามารถเข้าสู่กระแสพระนิพพาน หรือเป็นอริยะบุคคล ได้อีกต่อไป
เราจะมีโอกาสอีกครั้งในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย ที่จะประกาศพุทธศาสนาขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีการกำหนดเวลาที่แน่ชัด และหากเราพลาดพุทธศาสนาของพระศรีอริยเมตไตรย ก็จะต้องคอยการเกิดและดับของจักรวาลอีกหลายครั้งๆ ถึงจะมีโอกาสได้พบพุทธศาสนาอีกครั้งหนึ่ง
ช่วงเวลาที่ว่างเว้นจากพุทธศาสนา ที่เรียกว่า พุทธันดร มีสัดส่วนที่มากกว่าช่วงเวลาที่มีพุทธศาสนาอยู่หลายเท่าตัว เราอย่าไปเกิดในพุทธันดรเลย
ความโชคดีของคนไทยในยุคปัจจุบัน #
คนไทยในยุคปัจจุบันมีความโชคดีอยู่หลายอย่างๆ ที่หลายคนอาจจะไม่เคยนึกถึง ซึ่งหากไปเกิดที่ประเทศอื่นหรือในช่วงเวลาอื่น ก็จะไม่ได้โชคดีอย่างนี้ จึงควรใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ให้มากที่สุด
ผู้เขียนยังมีข้อสันนิษฐานด้วยว่า ความมั่นคงของศาสนาพุทธในประเทศไทย มีความสัมพันธ์กับอายุ 5,000 ปี ของพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
- ได้เกิดมาในยุคที่มีพุทธศาสนา และไม่ได้เกิดในพุทธันดร
- ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ที่สามารถฟังธรรมและปฏิบัติธรรมได้
- ได้เกิดมาในประเทศที่ประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาทมากที่สุดในโลก ซึ่งมีความใกล้เคียงกับศาสนาพุทธในสมัยพุทธกาลมากที่สุด และแตกต่างกับนิกายอื่นๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในภายหลัง
- ได้เกิดมาในประเทศที่พุทธศาสนาไม่เคยขาดการสืบทอด
- ได้เกิดมาในประเทศที่มี พระธาตุ พระไตรปิฎก และพระอรหันต์
- ได้เกิดมาในประเทศที่ใช้ภาษาไทย ที่ส่วนหนึ่งถูกพัฒนามาจากภาษาบาลี
- ได้เกิดมาในประเทศที่กำหนดให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
- ได้เกิดมาในประเทศที่มีความยากลำบากน้อยกว่าประเทศอื่น
- ได้เกิดมาในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร และสืบค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาได้อย่างสะดวกสบาย